อึ้ง! สิ่งแวดล้อมทำผู้ป่วยร้อยละ 20 เป็นโรคหวัดจากภูมิแพ้
แฉ..แนวโน้มเพิ่มขึ้นหากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข

โดยส่วนใหญ่หากรู้สึกไม่สบาย ตัวร้อน น้ำมูกไหล ข้อสันนิษฐานแรกที่ทุกคนจะนึกถึงคือ โรคหวัด แต่เนื่องจากโรคหวัดมีหลายชนิด ทั้งหวัดจากเชื้อไวรัสและจากสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่น โรคหวัดจากภูมิแพ้ ซึ่งมีอาการเหมือนกับไข้หวัดทั่วไป แต่สาเหตุของโรคกลับมาจากเรื่องใกล้ตัวที่เราอาจคาดไม่ถึง
เป็นโรคที่ประชาชนทั่วๆ ไปเรียกกันเพราะมีอาการคล้ายๆ กับหวัดหรือไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้มีอาการน้ำมูกไหลเหมือนกันแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดแตกต่างกัน ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
หวัดจากภูมิแพ้หรือเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) เป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการทางจมูก เกิดการอักเสบของเยื่อจมูกทำให้มีอาการคัน น้ำมูกไหล คัดจมูก อาจจะมีอาการเหล่านี้ตั้งแต่เล็กน้อยจนมีอาการมาก เรื้อรัง ก่อให้เกิดความรำคาญ กระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งในเรื่องการเรียน การประกอบอาชีพ การปฏิบัติภารกิจต่างๆ ต้องไปตรวจรักษากันบ่อย ทำให้ต้องขาดงาน ขาดการเรียนไปด้วย
โรคนี้พบประมาณร้อยละ 10-20 ของประชากรและมีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย หากว่าสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น โรคนี้พบมากในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทางอากาศสูงซึ่งจะทำให้มีปริมาณของสารก่อภูมิแพ้มาก อย่างเช่นคนในกรุงเทพมหานครก็เป็นโรคนี้กันมากเช่นกัน
สารก่อภูมิแพ้มีอยู่ทั่วๆ ไป ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ เชื้อรา ขนสัตว์เลี้ยง เป็นต้น นอกจากนี้ ในละอองเกสรพืช หญ้า วัชพืช สารก่อภูมิแพ้ และสารระคายเคืองที่อยู่ในอากาศ ก็ก่อให้เกิดโรคได้เช่นกัน
เมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จะมีอาการคัดจมูก จากนั้นอาจจามติดกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสๆ และคัดจมูก นอกจากนี้ยังมีอาการคันที่ตา คอ จมูก หรือเพดานปากร่วมด้วย บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะ เสียงเปลี่ยน จมูกไม่ได้กลิ่น น้ำมูกไหลลงคอ ไอ เจ็บคอเรื้อรัง หูอื้อหรือมีเสียงดังในหู หากพบอาการเหล่านี้สามารถสันนิฐานเบื้องต้นได้เลยว่า กำลังถูกหวัดจากภูมิแพ้เล่นงานอยู่
โรคนี้อาจพบร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น หอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนัง ส่วนภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่พบเช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ริดสีดวงจมูก เจ็บคอ ไอเรื้อรัง ซึ่งหวัดจากภูมิแพ้หรือเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง เพียงแต่มีอาการเรื้อรังและใช้เวลาในการรักษานาน ทำให้เป็นภาระแก่ผู้ป่วยและครอบครัวไม่น้อย การรักษาจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วยในการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และรู้จักสังเกตอาการตนเองด้วย จึงจะทำให้การควบคุมโรคได้ผล
ถึงหวัดจากภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงจนเยียวยาไม่หาย แต่ไม่ใช่เรื่องสนุกแน่หากจะปล่อยให้ตัวเองหมดความสุขเพราะอาการเรื้อรังที่เกิดจากโรคนี้ ทางที่ดีควรระมัดระวังและป้องกันตัวเองเสียตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า ให้ถือเสียว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ เป็นการดีที่สุด

ที่มา
เรียบเรียงโดย : สุเมตตา อุราโรจน์ Team Content www.thaihealth.or.th
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย : น.พ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th